Beauty and the Beast – โฉมงามกับเจ้าชายอสูร

เรื่องย่อหนัง
หนัง Beauty and the Beast หรือชื่อไทยว่า โฉมงามกับเจ้าชายอสูร กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเจ้าชายหนุ่มรูปงาม (แดน สตีเวนส์) ใช้ชีวิตอยู่ในปราสาทที่ใหญ่โต พระองค์ได้จัดงานเลี้ยงที่หรูหราอลังการ ที่มีแต่หญิงสาวสวยจากทั่วโลกเข้าร่วมงาน และได้รับการพะเน้าพะนอเอาใจจากบรรดาข้ารับใช้ ที่คอยทำตามพระประสงค์ของพระองค์ทุกประการ ทำให้เจ้าชายกลายเป็นคนอวดดีและสนใจแต่เรื่องของตัวเอง ในตอนที่หญิงชราขอทานปรากฏตัวขึ้นที่ปราสาท

เพื่อขอที่หลบภัยจากพายุฝน และเสนอกุหลาบหนึ่งดอกให้กับพระองค์เป็นสิ่งแลกเปลี่ยน พระองค์ขับไล่เธอไปอย่างหยาบคาย โดยหารู้ไม่ว่าแท้จริงแล้ว เธอเป็นแม่มดสาวสวย (แฮตตี้ มอราฮาน) เพื่อเป็นการลงโทษความใจร้ายของเจ้าชาย เธอจึงร่ายคำสาปใส่ปราสาทแห่งนี้ เปลี่ยนเจ้าชายให้กลายเป็นอสูร และเปลี่ยนบรรดาคนรับใช้ในปราสาทให้กลายเป็นของใช้ในบ้าน ในการทำลายคำสาป พระองค์จะต้องเรียนรู้ที่จะรักคนอื่น และได้รับความรักตอบแทน ก่อนที่กลีบสุดท้ายของกุหลาบเวทมนตร์จะร่วงหล่น.. มิเช่นนั้น พระองค์ก็จะต้องอยู่ในร่างอสูรและข้ารับใช้ต่าง ๆ ก็ต้องอยู่ในสภาพของสิ่งของและถูกกักขังอยู่ในปราสาทชั่วกัลปาวสาน
ตัวอย่างหนังออนไลน์

รีวิวหนัง
Beauty and the Beast เหล้าเก่าในขวดใหม่ เพิ่มเติมความอร่อย!

ถือเป็นธรรมเนียบของดิสนีย์ไปแล้ว ที่จะหยิบเอาการ์ตูนคลาสสิกของตัวเอง กลับมาโลดแล่นในเวอร์ชั่นคนแสดง นับตั้งแต่ Alice in Wonderland,Maleficent, Cinderella, The Jungle Book, Alice Thorugh of the Looking Glass จนมาถึง Beauty and the Beast
ที่มาพร้อมความยาวเต็มพิกัด 2 ชั่วโมง 9 นาที เรื่องแรกที่ยาวเกิน 2 ชั่วโมง (คงมีขยายความให้แตกต่างหรือมากกว่าในเวอร์ชั่นการ์ตูนอย่างแน่นอน)

ตัวหนังหลังจากได้ชมจบ ต้องขอบอกเลยว่า มีการขยายความจากเวอร์ชั่นการ์ตูนอยู่บ้างพอสมควร แต่ก็ไม่ได้มากมายเท่าที่คิดไว้ สิ่งที่น่าสนใจในเวอร์ชั่นนี้ก็คือ การสร้างสรรค์ความแฟนตาซี ที่เวอร์ชั่นการ์ตูนทำไว้ให้ออกมาสมจริงต่างหาก
ไม่ว่าจะเป็นฉาก CG ต่างๆ นาๆ ก็ล้วนเนรมิตรออกมาได้สมจริงทีเดียว (ยกเว้นตัวอสูรนั้นยังดูไม่ค่อยโอเคกับ CG ซักเท่าไหร่) แต่ก็พอถูไถ มองข้ามไปได้ เพราะองค์ประกอบอื่นๆ ช่วยไว้
ข้อติของเวอร์ชั่นนี้มีอยู่บ้าง จริงๆ หนึ่งในนั้นก็คือ การตัดต่อ ลำดับเรื่อง ที่ยังไม่ค่อยมีความสมูทไหลลื่นเท่าเวอร์ชั่นการ์ตูน เหมือนกับการเอาฉากที่ถ่ายทำมาแต่ละฉาก ตัดแปะเข้าไปให้ครบตามเนื้อเรื่องก็พอแล้ว ไม่ได้มีลูกเล่นอะไรให้หวือหวาน่าสนใจ
อีกหนึ่งข้อติดเลยของเวอร์ชั่นนี้คือ ในฉากไฮไลท์ของเรื่อง ที่เป็นฉากการเต้นรำของเบลล์และเจ้าชายอสูรนั้น มีความใช้ดีไซน์ฉาก อ้างอิงจาก Cinderella เวอร์ชั่น 2014 ที่ห้องโถงเต้นรำไม่ได้มีเพดานสูง ทำให้ในเรื่องนี้ หลายคนหวังจะเห็นฉากเต้นรำในห้องโถงอันกว้างใหญ่ และเพดานสูง เหมือนเวอร์ชั่นการ์ตูน เป็นอันต้องผิดหวัง เพราะความเห็นส่วนตัวว่า ฉากนี้ควรที่จะอลังการมากกว่านี้ ตราตรึงมากกว่านี้ และทำให้สวยน่าชมได้ไม่เท่าฉากเน้นรำใน Cinderella เวอร์ชั่น 2014 เลยแม้แต่น้อย
ข้อดีที่ต้องชมเลยก็มีไม่น้อย อาทิเช่น เพลงใหม่ที่แต่งเพิ่มเข้ามาไม่ว่าจะเป็น Aria / Day In The Sun / How Does A Moment Last Forever 3 เพลงที่ทำออกมาได้ดี ประทับใจในเนื่องเพลงและฉากประกอบเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
นอกจากเพลงใหม่แล้ว Beauty and The Beast นั้นยังมีการทำอัตราส่วนภาพขยายเฉพาะ IMAX ตลอดทั้งเรื่องด้วย (ตามภาพด้านล่าง) ทำให้เวอร์ชั่นใน IMAX ตื่นตาเต็มตากว่าเป็นอย่างมาก
สรุปแล้ว Beauty and the Beast เวอร์ชั่นนี้ ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้ดีมากจนขึ้นหิ้ง แต่ก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดที่ต้องโดนสาปให้กลายเป็นอสูรแบบเจ้าชายในเรื่อง ตัวหนังเองยังคงตอบโจทย์ในด้านเพลง ความบันเทิง และทำฝันของคอการ์ตูนคลาสสิกของดิสนีย์ ที่อยากจะเห็นการโลดแล่นในเวอร์ชั่นหนัง ได้เป็นจริงซักที 8/10